share

Tokai Lens 2024

Tokai Lens 2024

Tokai บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี 1939 มีชื่อเสียงเป็นบริษัทอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น
บริษัทนำศิลป์ไทย จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่าย เลนส์ Tokai อย่างเป็นทางการ
Tokai เป็นเจ้าของสิทธิบัตร การผลิตเลนส์ที่บางที่สุดในโลก Index 1.76 โดย ณ ปัจจุบัน ทุกบริษัทสามารถผลิตเลนส์บางสุดได้ที่  Index 1.74
ในวงการเลนส์สายตา Coating ของมางญี่ปุ่นถือว่าเป็นอันดับต้นๆของวงการ

เลนส์สายตาของทาง Tokai จะแบ่งเป็น 2รายผลิต
ส่วนมากเลนส์โปรเกรสซีฟหรือเลนส์แลปผลิตที่ญี่ปุ่น กับเลนส์สต็อกธรรมดาผลิตที่ไทย 
Neuro Select
Easy / Easy X
NWS
Indoor Neo
Digi Rakue
Rest
Single Lens

 

 

Neuro Select เลนส์โปรเกรสซีฟที่รู้ใจสมองที่สุด ด้วยเทคโนโลยี Neuroscience
แบ่งออกเป็น 4ระดับ
 Neuro Select 9X
 Neuro Select 7X
 Neuro Select 5X
 Neuro Select 3X


Neuro Select 9X
เลนส์โปรเกรสซีฟเทคโนโลยี Neuroscience
เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลขั้นสูงสุด ภาพกว้าง คมชัดที่สุด
และสามารถเลือกมุมมองภาพตามไลท์สไตล์ได้ถึง 4รูปแบบ ตามความต้องการ




Neuro Select 7X
เลนส์โปรเกรสซีฟเทคโนโลยี Neuroscience
เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลขั้นสูงสุด ภาพกว้าง คมชัด รายละเอียดชัดเจน
และสามารถเลือกมุมมองภาพตามไลท์สไตล์ได้ถึง 2รูปแบบ ตามความต้องการ


Neuro Select 5X
เลนส์โปรเกรสซีฟเทคโนโลยี Neuroscience
เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล ตามตำแหล่งของรูม่านตาผู้สวมใส่พร้อมระบุรายละเอียดกรอบแว่นที่ใส่ เพื่อขจัดภาพบิดเบือนด้านข้างที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีระสิทธิภาพ



Neuro Select 3X
เลนส์โปรเกรสซีฟเทคโนโลยี Neuroscience ขั้นพื้นฐาน
เน้นปรับตัวง่าย ใส่แล้วสบายตา

 

สรุป Neuro Select (ราคาเริ่มต้นที่ 34,500 บาท)
เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลที่เน้นด้านเทคโนโลยีสูงสุดของทาง Tokai

รุ่น 9X เหมาะสำหรับคนที่ใส้โปรเกรสซีฟรุ่นสูงสุดมาอยู่แล้ว หรือคนที่ลองใช้โปรเกรสมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จ หรือค่าสายตาเยอะ ค่า่สายตาซับซ้อนมาก
รุ่น 7X ตัวนี้จะคล้ายๆ 9X แต่มุมมองภาพตามไลท์สไตล์ที่ให้เลือกเหลือแค่ 2รูปแบบ
รุ่น 5X กับ 3X จะไม่มีมุมมองภาพตามไลท์สไตล์ให้เลือก ส่วน5X มีค่าพารามิเตอร์แว่นให้ใส่ร่วมด้วย แต่ 3X ทุกอย่างควรเป็นมาตรฐาน เพื่อให้ได้คุณภาพการมองเห็นที่ดีที่สุด




 Easy /  Easy X 
เลนส์โปรเกรสซีฟดีไซน์ใหม่ โดดเด่นด้วย Digitect-core5 ที่ช่วยลดภาพเบลอและภาพบิดเบือน ทำให้มองภาพได้สบายตา ตอบโจทย์การใช้งานทุกไลท์สไตล์ ปรับตัวได้ง่าย แม้ไม่เคยใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟมาก่อน




Easy
เลนส์โปรเกรสซีฟ ที่มีเทคโนโลยี Digitect-cor5 ทำให้ภาพที่เห็นสมจริง สวมใส่ง่าย สบายตา ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีการจัดการภาพบิดเบือนด้านข้างอย่างละเอียดตามแนวของระยะสายตา




Easy X
ความพิเศษของรุ่นนี้คือ มีเทคโนโลยี Double Surface Progressive + Aspheric Design x Digitech Cor5 ในขัดเลนส์ เพื่อช่วยภาพบิดเบือนด้านข้างจากค่าสายตาสองข้างแตกต่างกัน ทำให้ใส่สบายตา ปรับตัวง่ายมากขึ้น

สรุป Easy & Easy X (ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท)
ทั้ง2รุ่น เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีการรองรับความโค้งกรอบแว่น ทำให้เลนส์ที่ผลิตออกมาสามารถใช้กรอบโค้งได้อย่างเหมาะสม ผลที่ได้คือความสวยงามของแว่นและมุมมองภาพ
ส่วนความต่างของทั้ง2รุ่นคือ Easy X เหมาะสำหรับคนที่ค่าสายตาสองข้างแตกต่างกันมาก ด้วยเทคโนโลยีที่มีเฉพาะใน Easy X ทำให้มุมมองภาพในการใช้งานจะสมจริงและเป็นธรรมชาติมากกว่าตัว Easy ธรรมดา

 


NWS  Neo Wide Area Design
ดีไซน์เลนส์แบบใหม่ ด้วย DX Refinement process ที่เพิ่มพื้นที่ในโซนมองไกลและใกล้
โดยการจัดการภาพบิดเบือนด้านข้างของเลนส์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ได้รับมุมมองภาพที่กว้างและคมชัด

สรุป NWS (ราคาเริ่มต้นที่ 19,900 บาท)
คือเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตาซับซ้อน และมีไลท์สไตล์เน้นใช้งานระยะไกลกับระยะใกล้ อาจไม่เหมาะกับการใช้งานเน้นระยะกลางเช่น หน้าจอคอมฯ





Indoor Neo
เลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ออกแบบโครงสร้างและคำนวนค่าสายตา เพื่อการมองระยะใกล้ และระยะกลาง รวมถึงพื้นที่ระยะไกลภายในบริเวณตัวอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยแบ่งได้ 2แบบ

   

โดยต่างกันที่เทคโนโลยีในการขัดเลนส์ ขัดแบบ Double-Side กับ ขัดแบบ Backside
และทั้ง 2 รุ่น สามารถเลือกรูปแบบการใช้งานตามไลท์สไตล์ได้ 3รูปแบบเหมือนกัน
Wide Type - Importance of the Wideness เน้นระยะกลาง ใกล้เป็นหลัก
Long Type - Importance of the Balance ไม่เน้นอะไรเป็นพิเศษ
Extra Type - Importance of the Distance เน้นเห็นได้ไกลกว่ารูปแบบอื่นๆ

สรุป Indoor Neo (ราคาเริ่มต้นที่ 18,900 บาท)
คือเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะทาง ที่เน้นใช้งานในที่ทำงาน เน้นใช้งานอยู่หน้าโต๊ะทำงาน จอคอมฯ มือถือ เลือกWide ถ้าเน้นใช้งานแบบห้องประชุม หรือมีทีวีวางไกลเลือกExtra
และทั้ง 2 รุ่น ต่างกันที่เทคโนโลยีการขัดเลนส์ การขัดแบบDouble Side จะได้มุมมองและความลื่นไหลที่ดีกว่า Back Side แต่ราคาก็จะสูงกว่าด้วย


Digi Rakue (Office Progressive)
เลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อการมองระยะกลางกับระยะใกล้ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ (เลนส์ Office)
พร้อมทั้งคำนวณระยะการใช้งานให้เหมาะสมกับหลัก Ergonomics
ตอบโจทย์ Active Lifestyle ที่ต้องใช้สายตากับการทำงานหน้าจอคอมฯ หรือใช้งานมือถือตลอดทั้งวัน รวมถึงการทำงานที่มีหลายหน้าจอสลับมองไปมา
โดยมี 2 รายผลิต



Digi Rakue WS
เทคโนโลยีการขัดหน้าเลนส์ทั้ง 2 ด้าน ที่มีเฉพาะใน DigiRakue WS

จะช่วยลดภาพบิดเบือนที่เกิดจากกำลังขยายของค่าสายตาตลอดทั้งเลนส์
เพื่อให้การมองเห็นสมจริงและเป็นธรรมชาติได้มากที่สุด



Digi Rakue Backside
ดีไซน์พิเศษ ที่ช่วยให้เพิ่มความกว้างในการใช้งานระยะใกล้ได้อย่างดี

โดยการจัดการภาพบิดเบือนบริเวณโซนในการมองระยะใกล้ เพื่อภาพที่สบายตามากขึ้นและมุมมองที่กว้างยิ่งขึ้น


สรุป Digi Rakue (ราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท)
คือเลนส์ Degressive หรือOffice Lens เน้นระยะกลางและระยะใกล้
ส่วนรุ่น WS จะมีความพิเศษกว่าตรงที่เป็นขัดเลนส์แบบ 2 ด้าน ทำให้ช่วยลดภาพบิดเบือนบนเลนส์ได้ดีกว่า ถ้าเทียบกันตรงๆจะอย่างเห็นได้ชัดว่าบริเวณขอบเลนส์ของทั้ง 2 รุ่นจะแตกต่างกัน รุ่น WS จะทำภาพบิดเบือนตรงขอบเลนส์ได้ดีกว่า ภาพจะสมจริงเป็นธรรมชาติ

 

Rest Series (Let your hard-working eyes)
เลนส์ลดอาการตาล้า โดยจะมี Type A และ Type B (เลือกตามค่ากำลังการเพ่ง)
และมี 2 รายผลิต
 Rest-R
 Rest-W



Rest-R (Backside)
- Harmonic Eye Assist Aspheric Design
เป็นเทคโนโลยี ทำให้มุมมองที่เห็นเป็นธรรมชาติและสบายตา
- Aspheric Surface For Base Power
ออกแบบโครงสร้าเลนส์ให้ได้ค่าสายตาที่แม่นยำที่สุดในทุกระยะ
- Eye Assist Aspheric Design
ออกแบบโครงสร้างเลนส์โดนคำนึงถึงการเคลื่อนไหวไปมาของดวงตาเรา ทำให้มองภาพได้อย่างสมดุล และสบายตายิ่งขึ้น เมื่อต้องกวาดหรือเหลือบตามองในระยะใกล้



Rest-W
มีเทคโนโลยีพิเศษเพิ่มเติมจากรุ่น R คือการขัดหน้าเลนส์ทั้ง 2 ด้าน เพื่อให้ได้ภาพที่สบายตามากขึ้น
- Optimize Power Each Prescription
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเลนส์ในทุกๆค่าสายตา
- Optimize Atoric On Each Prescription
เพื่อความโค้งของเลนส์ที่เหมาะสมกับกรอบแว่น และค่าสายตานั้นๆ
- Optimize Aspheric amount on frame shape
นำเอาลักษณะของกรอบแว่นมาคำนวณและชดเชยภาพบิดเบือนด้านข้างที่เกิดขึ้น เพื่อให้มุมมองภาพท่กว้างขึ้นและคมชัดมากยิ่งขึ้น
- Retina' Focus Design
ชดเชยค่าสายตา ตามลักษณะสรีรศาสตร์ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการหักเหของแสงที่ผ่านเลนส์และความผิดเพี้ยน ทำให้ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติ

สรุป Rest Series (ราคาเริ่มต้นที่ 12,500 บาท)
เป็นเลนส์ช่วยลดอาการตาล้า หรือRelax Lens แล้วเราจะเลือกรุ่น W หรือ R ดี?!

ถ้าค่าสายตาเยอะ ค่าสายตาเอียงเยอะ หรือค่าสายตาซับซ้อนแนะนำรุ่น W
เพราะมีการทั้งเทคโนโลยีที่ช่วยชดเชยเกี่ยวกับค่ากำลังสายตาหลายส่วน และเทคโนโลยีการขัดเลนส์ทั้ง 2 ด้าน จะช่วยให้ได้มุมมองภาพที่กว้างมากยิ่งขึ้นอีก

Single Lens

                                               
 



เลนส์ชั้นเดียวของทางบริษัท Tokai มีจำหน่ายหลากหลายแบบ

Bi-As Double Aspheric เลนส์ขัดแบน 2ด้านและผสานกับการผลิตเลนส์ Index 1.76 จะทำให้ได้เลนส์ที่บางที่สุดในโลกในค่าสายตานั้นๆ
(ราคาเริ่มต้นที่ 15,500 บาท)

Smart Toric ด้วยเทคโนโลยีที่ขัดผิวเลนส์แบบพิศษ สามารถรองรับคนที่มีสายตาเอียงมากๆ หรือองศาของสายตาเอียงในแนวเฉียงได้ดีมาก
(ราคาเริ่มต้นที่ 13,500 บาท)

CVF (Custom-made Double side aspheric design) เลนส์ชั้นเดียวแบบพรีเมียมเฉพาะบุคคล สำหรับคนที่ค่าสายตาสูง หรือซับซ้อนมาก
(ราคาเริ่มต้นที่ 20,500 บาท)

AS Aspheric เลนส์ขัดแบน 1ด้าน
(ราคาเริ่มต้นที่ 10,800 บาท)



นัดตรวจสายตากับนักทัศนมาตรที่มีใบประกอบโรคศิลปะถูกต้องตามกฎหมาย
พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกเลนส์ Tokai อย่างจริงใจและถูกต้อง
คลิ๊กภาพด้านล่างเพื่อจองคิววัดสายตาหรือปรึกษากับเราทาง Line Official SPforever Optical

บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy