Nikon 2024
Nikon บริษัทเลนส์สัญชาติญี่ปุ่น
จุดเริ่มต้นของบริษัทฯ Nikon เกิดขึ้นในปี 1917 หรือเมื่อ 107 ปีที่แล้ว ได้เป็นผู้ผลิดเลนส์สำหรับเครื่่องมือต่างๆ รวมถึงเลนส์สายตาภายในประเทศ
ปี 1946
ได้เปิดตัวเลนส์สายตา ตัวแรกของ Nikon เข้าในตลาด Pointal
ปี 1983
ได้เปิดตัวเลนส์สายตาที่มีการเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อน
ปี 2000
ได้เปิดตัวครั้งแรกกับเลนส์ที่ย่อบางที่สุด Inde 1.74 (Ultra-High Index)
ปี 2002 ถึง ปี 2018
ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลากหลายตัว เช่น SeeMacx Single, RelaxSee, Coating Blue/Bright/Drive
ปี 2019
เปิดตัว SeeMax Ultimate โดยทาง Nikon ได้ทำการพัฒนาโครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซีฟขึ้นไปอีกขั้น
Progressive Lens
Single Vision Lens
Home & Office
Progressive Lens แบ่งเป็น 5 รุ่น
See Max Ultimate
Presio Master
Presio Power
Presio Advance
Presio First
See Max Ultimate
มาพร้อมเทคโนโลยี Insights Technology (ออกแบบโครงสร้างเฉพาะบุคคล) และ Frame Shape Optimization (ขจัดภาพบิดเบือนด้านข้าง)
ให้อิสระการมองเห็นสูงสุด
ขยายพื้นที่การมองเห็น
ให้มุมมองที่สบายตายิ่งขึ้น
ปรับตัวง่ายขึ้น
มุมมองภาพกว้างและชัดเจนยิ่งขึ้น
ให้รายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ภาพคมชัดยิ่งขึ้น
Presio Master
มาพร้อมเทคโนโลยี Binolar Tuner (ปรับสมดุลการมองเห็นของสองตา) และ Deformation Tuner (จัดระเบียบทิศทางปริซึม ลดอาการวูบวาบ)
ให้มุมมองที่สบายตายิ่งขึ้น
ปรับตัวง่ายขึ้น
มุมมองภาพกว้างและชัดเจนยิ่งขึ้น
ให้รายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ภาพคมชัดยิ่งขึ้น
Presio Power
มาพร้อมเทคโนโลยี Softening Fliter Double Side Design (ออกแบบเลนส์สองด้าน ลดภาพบิดเบือนด้านข้าง)
ออกแบบเลนส์สองด้าน เพื่อลดภาพบิดเบือนด้านข้าง ทำให้เพิ่มความนุ่มนวล สบายตายิ่งขึ้น
ปรับตัวง่ายขึ้น
มุมมองภาพกว้างและชัดเจนยิ่งขึ้น
ให้รายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ภาพคมชัดยิ่งขึ้น
Presio Advance
มาพร้อมเทคโนโลยี Flat Powerline Design (ปรับสมดุลโครงสร้างเลนส์ในแนวนอน)
ออกแบบโครงสร้างเลนส์โดยปรับสมดุลค่าสายตาในแกนแนวนอนเพื่อให้ภาพที่คมชัด สบายตา และเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
ให้รายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ภาพคมชัดยิ่งขึ้น
Presio First
มาพร้อมเทคโนโลยี Node Optimization (คำนวณค่าสายตาและค่าพารามิเตอร์ในการผลิตเลนส์)
มีเทคโนโลยีในการคำนวณค่าสายตาและค่าพารามิเตอร์ในการผลิตเลนส์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เอกสิทธิ์เฉพาะของ Nikon
ภาพคมชัดยิ่งขึ้น
สรุป Progressive Lens (ราคาเริ่มต้นที่ 8,700 บาท)
รุ่น See Max Ultimate เน้นกว้าง นุ่มนวล สบายตา ขณะใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ค่าสายตาเยอะๆ ค่าสายตาเอียงเยอะๆ หรือ ค่าสายตา 2 ข้างไม่เท่ากัน และค่าสายตาซับซ้อนมาก
รุ่น Presio Master มีเทคโนโลยีช่วยปรับสมดุลการมองเห็นของ 2 ตา สามารถลดอาการวูบวาบได้ เหมาะสมหรับคนที่ค่าสายตา 2 ข้างไม่เท่ากัน หรือ ค่าสายตาค่อนข้างซับซ้อนมาก
รุ่น Presio Power มีเทคโนโลยีช่วยขจัดภาพบิดเบือนด้านข้างให้ เหมาะสำหรับคนที่ค่าสายตามากๆ ค่าสายตายาวตามวัยเกิน +1.75 D.
รุ่น Presio Advance เหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตา สั้น-ยาว ร่วมกับเอียง แต่ค่าสายตาไม่ซับซ้อน หรือค่าสายตายาวตามวัยเกิน +1.50 D.
รุ่น Presio First เลนส์โปรเกรสซีฟ รุ่นเริ่มต้นของทาง Nikon เหมาะสำหรับคนที่ค่าสายตายาวตามวัยเริ่มต้นหรือไม่เกิน +1.50 D. และค่าสายตาไม่ซํบซ้อน ค่าสายตาสั้น-ยาว กับ ค่าสายตาเอียงไม่มาก
Single Vision Lens แบ่งได้ 4 แบบ
See Max Infinite
MyopSee
AS (Aspheric)
Relaxsee Neo
See Max Infinite
8-Axis Optimization เทคโนโลยีการขัดเลนส์ 8 แกน
โครงร้าง FreeForm
MyopSee
2-Axis Optimization เทคโนโลยีการขัดเลนส์ 2 แกน
โครงสร้าง Double Aspheric
AS (Aspheric)
1-Axis Optimization เทคโนโลยีการขัดเลนส์ 1 แกน
โครงสร้าง Aspheric
Relaxsee Neo
มาพร้อมเทคโนโลยี Twin Technology (ภาพระยะไกลคมชัดโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพของเลนส์ เมื่อใช้ร่วมกับส่วนล่างของเลนส์)
ออกแบบมาสำหรับบรรเทาอาการปวดตาขณะใช้งานหน้าจอคอมฯ หรือ มือถือสำหรับทุกวัย
สรุป Single Vision Lens (ราคาเริ่มต้นที่ 7,200 บาท)
รุ่น See Max Infinite เหมาะสำหรับคนที่ค่าสายเยอะๆ ค่าสายตาเอียงเยอะๆ และค่าสายตาซับซ้อนมาก เทคโนโลยีขัด 8 แกน และโครงสร้าง FreeForm จะเข้ามาช่วยทำให้ขจัดภาพบิดเบือดของเลนส์ได้ดีเยี่ยม เพิ่มความนุ่มสบายขณะสวมใส่
รุ่น MyopSee เหมาะสำหรับคนที่ค่าสายตาสั้นมาก ตัวโครงสร้าง Double AS จะทำให้ได้เลนส์ที่มีขอบค่อนข้างบาง สวยงาม
รุ่น AS เหมาะสำหรับคนที่ค่าสายตาสั้น-ยาวเกิน -2.50 D หรือ เอียงเกิน -1.50 D. เพราะโครงสร้าง Aspheric จะรองรับค่าสายตาและช่วยทำให้มุมมองที่เห็นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น จึงสามารถปรับกับเลนส์ได้ง่ายขึ้น (โครงสร้างเลนส์ได้ดีกว่าเลนส์ทั่วไป)
รุ่น Relaxsee Neo คือเลนส์ลดอาการเพ่ง (Relax Lens) เหมาะสำหรับใช้หน้าจอคอมฯ มือถือ ตลอดเวลา ใช้ได้ดีกับคนค่าสายตายาวตามวัยไม่เกิน +1.25 D.
Home & Office (Degressive Lens) มี 2รุ่น
E-Life Pro Home & Office
E-Life Pro Read
E-Life Pro Home & Office
คุณสมบัติ
เพิ่มทัศนวิสัยสำหรับมุมมองในทุกระยะการใช้งาน
สามารถปรับแต่งเลือกระยะได้ 3เมตร, 2เมตร และ1เมตร ตามการใช้งาน
ขยายโฟกัสระยะใกล้
E-Life Pro Read
คุณสมบัติ
ขยายทัศนวิสัยใกล้ตัวเพื่อการโฟกัสที่ละเอียดยิ่งขึ้น
เพิ่มความคมชัดของภาพในระยะกลางและระยะใกล้
มุมมองขณะทำงานหน้าจอคอมฯได้นุ่มสบายอย่างเป็นธรรมชาติ
สรุป Home & Office (ราคาเริ่มต้นที่ 6,000 บาท)
E-Life รุ่น Pro Home & Office กับ Pro Read ต่างกันที่ตัว Home & Office สามารถเลือกตามระยะการใช้งานได้ แต่ถ้าเป็นตัว Read ระยะมองไกลจะดีกว่าสายตายาวธรรมดาทั่วไป
นัดตรวจสายตากับนักทัศนมาตรที่มีใบประกอบโรคศิลปะถูกต้องตามกฎหมาย
พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกเลนส์ Nikon อย่างจริงใจและถูกต้อง
คลิ๊กภาพด้านล่างเพื่อจองคิววัดสายตาหรือปรึกษากับเราทาง Line Official SPforever Optical